พูดถึงกันมากที่สุด.. สนามบินดอนเมืองอยู่คู่คนไทยมากว่า 100 ปีแล้ว เปิดทำการเมื่อ 27 มีนาคม ปี 2457 ให้บริการนักเดินทางกันมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าอาคารหลังเก่าที่ 1 ถูกปิดตัวลงไปแล้วก็ตาม แต่สถานที่แห่งนี้ยังเคยมีเรื่องเล่าในตำนานอย่างเกทที่ 62

ไฟท์บินมีนักบินทั้งหมด 2 คน เป็นกัปตันมากประสบการณ์อดีตทหารอากาศ ยศเรืออากาศโท อายุ 41 ปี ส่วนนักบินผู้ช่วยเป็นอดีตทหารอากาศ ยศนาวาอากาศตรีอายุ 52 ปี เคยทำการบินที่นี่แล้วทั้งหมด 14 ครั้ง และลูกเรือทั้งหมดอีก 12 คน ดูแลผู้โดยสารทั้งหมด 99 คน

จนถึงตอนนี้ สนามบินดอนเมือง ยังคงเว้นช่วงระหว่างหมายเลขเกท ตั่งแต่ 59 – 70 ออกไปอยู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในตำนานของเกทที่มีหลายคนประสบกับเรื่องลี้ลับ!

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2544 เวลา 14.48 น. เครื่องบินการบินไทยระเบิดขึ้นกลางสนามบินดอนเมือง สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนจำนวนมาก โชคดีของผู้โดยสารที่ยังไม่มีใครขึ้นบนเครื่องบิน แต่ได้สังเวยหนึ่งชีวิตลูกเรือในครั้งนั้น

เรื่องที่ 5 ตำนานบนเครื่องบินแต่ละลำก็ไม่ธรรมดา มีผู้โดยสารกำลังกลับบ้านที่กรุงเทพฯ จากสนามบินนาริตะ จนได้ขึ้นเครื่องบินแล้วในระหว่างการบินได้ทำสมาธิกล่าวอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตไปด้วย หลังจากนั้นจะไปเข้าห้องน้ำซึ่งมีคนกำลังยืนต่อคิวอยู่ 2 คน พลางนึกในใจว่า ห้องน้ำต้องสกปรกแน่ๆ แต่ก็จำเป็นต้องเข้าให้เรียบร้อยก่อนเครื่องจะลงจอดในอีกไม่ช้า จนคนสุดท้ายเข้าห้องน้ำเสร็จก็เห็นว่า มีลูกเรือผู้หญิงเดินตัดหน้าเข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำ แถมหันมายิ้มใส่ด้วย พลางนึกในใจขอบคุณเขา และก็มีอีกคนกำลังจะมาต่อคิวต่อจากผม ถามเราว่า จะเข้าห้องน้ำหรือเปล่า? เราจึงตอบกลับไปว่า ยังเข้าไม่ได้ เพราะกำลังทำความสะอาดอยู่ พอดีมีลูกเรืออีกคนหนึ่งกำลังมาเตรียมปฏิบัติงาน แล้วผลักประตูเข้าไปเลย ปรากฎว่า ไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำ ทั้งที่ผมยืนจ้องประตูอยู่ตลอดเวลา พอออกจากห้องน้ำแล้วก็มานั่งทบทวนเหตุการณ์แปลกๆ นี้ สังเกตุดูว่าลูกเรือคนนั้น เขาออกจากห้องน้ำไปตอนไหน? ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้! ที่จะไม่มีใครเห็นเขา จากนั้น ผมได้คุยกับลูกเรือถามถึงคนที่เข้ามาทำความสะอาดห้องน้ำ และบรรยายรูปร่างหน้าตาให้ฟัง จนทำให้ลูกเรือตกใจมาก ทำตาโต บอกไม่มีนะ! แล้วเดินจ้ำอ้าวไปอย่างไว ลูกเรือคนอื่นๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็มองมาที่ผมอย่างผิดสังเกตุ และตอนลงจากเครื่อง ผมพยายามมองหาลูกเรือที่ทำความสะอาดห้องน้ำ แต่ก็ไม่เจอจริงๆ

เรื่องที่ 6 เหตุการณ์ การบินไทยชนภูเขาหิมาลัย เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2535 เที่ยวบินดอนเมือง ไป กรุงกาฎมัณฑุ ประเทศเนปาล HS-TID TG-311 เครื่องบินแอร์บัส A310 หลังจากนั้นอีกไฟท์ ที่เครื่องบินมาลงจอดยังสนามบินที่กาฎมัณฑุ มีผู้โดยสาร และลูกเรือช่วยกันสวดมนต์ และอุทิศส่วนกุศลให้ ทีนี้พอเตรียมประกาศเรียกขึ้นเครื่องแล้ว มีลูกเรือ (ชุดใหม่) เห็นลูกเรือ (ชุดเก่า) ที่ใส่ชุดไทยยืนอยู่ในงวงช้าง พอหันไปอีกทีก็ไม่เห็นแล้ว เลยคิดว่าอาจจะตาฝาด พอผู้โดยสารครบกำลังปิดประตู ตนได้เห็นลูกเรือกลุ่มนั้นอีกครั้ง กำลังวิ่งมาเพื่อจะติดเครื่องบินไปกลับบ้าน ด้วยความกลัวจึงได้เร่งรีบปิดประตู และมองลอดออกไป เห็นยืนร้องไห้กัน ทีนี้พวกเขายกมือไหว้ ขอกลับด้วย ตนจึงแจ้งหัวหน้างานและประสานงานไปยังกัปตัน จากนั้นทางหัวหน้างานจึงกลับมานำสวดบอกว่า ขอให้ทุกดวงวิญญาณกลับบ้าน ซึ่งพี่ๆ บอกว่า เขาอยากกลับบ้าน… เชิญกลับบ้านด้วยกัน! เปิดประตูทิ้งไว้สักพัก พี่ๆ กำชับว่าอย่าบอกใคร เดี๋ยวตื่นตระหนก จนเมื่อถึงเวลาเตรียมเสิร์ฟอาหาร มีผู้โดยสารทักมาว่า ทำไม? วันนี้ลูกเรือเยอะจัง บริการดีมาก ลูกเรือผู้หญิงที่ห่มสไบชุดเขียว หน่ะ สวย บริการดีมากนะ ฝากชมหน่อย

ฮือฮา! หลังผู้โดยสารการบินไทยเที่ยวบินไถลออกนอกรันเวย์ ระบุว่า มีแอร์โฮสเตสในชุดไทย ห่มสไบ เข้าช่วยเหลือผู้โดยสาร ทั้งที่ลูกเรือบนเที่ยวบินดังกล่าว ยืนยันไม่มีใครใส่ชุดไทย พร้อมที่มาของการตั้งศาลรอบสนามบินดังกล่าว

เรื่องที่ 7 เกิดขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคยเป็นข่าวดังออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 เมื่อหลายปีก่อน เมื่อ การบินไทย TG-679 ไถลออกนอกรันเวย์ ลือสนั่น! ลูกเรือผีสวมชุดไทย ห่มสไบ น้ำใจงามช่วยผู้โดยสารการบินไทย ซึ่งลูกเรือบนเที่ยวบินดังกล่าวยืนยันว่า ไม่มีใครใส่ชุดไทยเลย ขณะที่อดีตผู้บริหารท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เล่าว่ามีเรื่องความเชื่อชวนขนหัวลุกจริง! พร้อมแฉที่มาของการตั้งศาลเจ้าที่ 6 แห่ง รอบสนามบินสุวรรณภูมิ เหตุเพราะว่า ลูกน้องใต้บังคับบัญชาได้มาร้องเรียนว่า ถูกผีหลอกประจำ และช่วงทำพิธีเปิดสนามบินโดย จู่ๆ พ่อแก่มิ่ง เข้าทรงร่างพนักงานคนหนึ่งให้สร้างศาลเพียงตาด้วย มิเช่นนั้น จะเกิดเหตุปั่นป่วนวุ่นวาย ให้พนักงานสวดมนต์ทุกวันเสาร์ รวมถึงมีพิธีทำบุญใหญ่ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล อุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณต่างๆ ที่อยู่โดยรอบสนามบิน